ดวงอาทิตย์(SUN)
ดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ที่สำคัญในระบบสุริยะ เป็นดาวฤกษ์ สีเหลือง มีอายุเกือบ 5,000 ล้านปี อยู่ห่าจากโลกของ เราประมาณ 150 ล้านกิโลเมตร แสงจากดวงอาทิตย์ใช้เวลาเดินทางมายังโลกเพียง 8.3 นาที หรือ 499 วินาทีเท่านั้น พลังงานจำนวนมหาศาล ในดวงอาทิตย์ได้มา จากการ เปลี่ยนก๊าซไฮโดรเจนเป็น ฮีเลียมที่อุณหภูมิประมาณ 15 ล้านเคลวิน หรือประมาณ 27 ล้านองศาฟาเรนไฮต์
ดวงอาทิตย์มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่มากกว่าโลกของเรา109 เท่า มีปริมาตร 1,300,000 เท่าของโลก และมีมวล มากกว่าโลกของเรา 333,434 เท่า กาลิเลโอเป็นคนแรก ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ดวงอาทิตย์หมุนรอบตัวเอง และจากการศึกษาของนักดาราศาสตร์ทำให้ทราบว่า การหมุนรอบตัวเองของดวงอาทิตย์ ในบริเวณเส้นศูนย์สูตรจะมีความเร็วกว่าที่บริเวณขั้ว เหนือและขั้วใต้
ดวงอาทิตย์มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่มากกว่าโลกของเรา109 เท่า มีปริมาตร 1,300,000 เท่าของโลก และมีมวล มากกว่าโลกของเรา 333,434 เท่า กาลิเลโอเป็นคนแรก ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ดวงอาทิตย์หมุนรอบตัวเอง และจากการศึกษาของนักดาราศาสตร์ทำให้ทราบว่า การหมุนรอบตัวเองของดวงอาทิตย์ ในบริเวณเส้นศูนย์สูตรจะมีความเร็วกว่าที่บริเวณขั้ว เหนือและขั้วใต้
กำเนิดและวิวัฒนาการของดวงอาทิตย์ ดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ที่มีมวลน้อยถึงปานกลางและอยู่ใกล้โลกที่สุด จึงเป็นดาวฤกษ์ที่นักดาราศาสตร์ศึกษามากที่สุด ดวงอาทิตย์เกิด จากการยุบรวมตัวของเนบิวลาเมื่อประมาณ 5,000 ล้านปีมาแล้ว และจะฉายแสงสว่างอยู่ในสภาพสมดุลเช่นทุกวันนี้ต่อไปอีกประมาณ 5,000 ล้านปี การยุบตัวของเนบิวลา เกิดจากแรงโน้มถ่วงของเนบิวลาเอง เมื่อแก๊สยุบตัวลง ความดันของแก๊สจะสูงขึ้น ผลที่ตามมาคือ อุณหภูมิของแก๊สจะสูงขึ้นด้วยนี่คือธรรมชาติของแก๊สในทุกสถานที่ ที่แก่นกลางของเนบิวลาที่ยุบตัวลงนี้ จะมีอุณหภูมิสูงกว่าที่ขอบนอก เมื่ออุณหภูมิแก่นกลางสูงมากขึ้นเป็นหลายแสนองศาเซลเซียส เรียกช่วงนี้ว่า ดาวฤกษ์เกิดก่อน ( Protostar) เมื่อแรงโน้มถ่วงดึงให้แก๊สยุบตัวลงไปอีก ความดัน ณ แก่นกลางสูงขึ้น และอุณหภูมิก็สูงขึ้นเป็น 15 ล้านเคลวิน เป็นอุณหภูมิสูงมากพอที่จะเกิดปฏิกิริยาเทอร์โมนิวเคลียร์ (thermonuclear reaction) หลอมนิวเคลียสไฮโดรเจนเป็นนิวเคลียสฮีเลียม เมื่อเกิดความสมดุลระหว่างแรงโน้มถ่วงกับแรงดันของแก๊สร้อนทำให้ดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ที่สมบูรณ์ ส่วนประกอบของดวงอาทิตย์ 1. แกนกลาง แกนกลางของดวงอาทิตย์เป็นแหล่งกำเนิดพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชันหรือเทอร์โมนิวเคลียร์ คือหลอมไฮโดรเจนให้เป็นฮีเลียมที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 15 ล้านองศาเซลเซียส 2. ชั้นแผ่รังสี เป็นส่วนที่รับและดูดกลืนรังสีอันเนื่องมาจากพลังงานที่ผลิตได้ และความร้อนจากแกนกลางถ่ายทอดสู่ส่วนนอกโดยการแผ่รังสีแบบคลื่น 3. ชั้นแก๊สหมุนวน เป็นชั้นที่อนุภาคซึ่งได้รับพลังงานความร้อนจากชั้นแผ่รังสีมีการเคลื่อนที่ ถ่ายเทพลังงานให้กันและกัน ทำให้มีการพาพลังงานออกมาสู่ผิวชั้นนอกได้ 4. โฟโตสเฟียร์ เป็นพื้นผิวของดวงอาทิตย์ซึ่งประกอบด้วยก๊าซร้อนซึ่งเคลื่อนที่ตลอดเวลา จะบริเวณที่เป็นเปลือกและมีลักษณะส่องสว่าง 5. โคโรนา เป็นบรรยากาศของดวงอาทิตย์แผ่กระจายกว้างไกลจากดวงอาทิตย์ มีความสว่างน้อย จะต้องรอให้เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงจึงสังเกตเห็นโคโรนา จุดบนดวงอาทิตย์(Sunspots) เกิดจากสนามแม่เหล็กที่หมุนวนปั่นป่วนรุนแรงของดวงอาทิตย์กักกั้นพลังงานจากภายในดวงไม่ให้เคลื่อนออกสู่ผิวดวง ทำให้อุณหภูมิบริเวณนั้นต่ำกว่าบริเวณข้างเคียง จึงปรากฏเป็นจุดบนดวงอาทิตย์ • จุดบนดวงอาทิตย์(Sunspots) เกิดจากสนามแม่เหล็กที่หมุนวนปั่นป่วนรุนแรงของดวงอาทิตย์กักกั้นพลังงานจากภายในดวงไม่ให้เคลื่อนออกสู่ผิวดวง ทำให้อุณหภูมิบริเวณนั้นต่ำกว่าบริเวณข้างเคียง จึงปรากฏเป็นจุดบนดวงอาทิตย์ • จุดบนดวงอาทิตย์ปรากฏมืดดำเพราะเป็นบริเวณที่มีความสว่างและมีความร้อนน้อยกว่าพื้นที่ข้างเคียง ความจริงแล้วบริเวณจุดบนดวงอาทิตย์มีความสว่างสูงมาก แสงออโรร่า หลังจาการลุกจ้าบนดวงอาทิตย์ประมาณ 20-30 ชั่วโมงจะมีอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าต่างๆจากดวงอาทิตย์เดินทางมายังโลกอนุภาคสุริยะเหล่านี้ถูกตรึงยึดไว้โดยสนามแม่เหล็กโลก เร่งให้พลังงานระดับสูงและเกิดความกดอากาศสูงขึ้น แสงพุ่งขึ้นจากท้องฟ้า ในเวลากลางคืนลักษณะรูปวงรีขนาดใหญ่รอบทั้งสองขั้วแม่เหล็ก แสงที่พุงขึ้นจากท้องฟ้าในเวลากลางคืนเรียกว่า แสงออโรร่า ดวงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญต่อโลกมากเพราะเป็นแหล่งที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ สัตว์ และพืช แต่โลกได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์เพียง2 ใน2200 ล้านส่วนเท่านั้น เนื่องจากที่ใช้พลังงานได้เท่านี้เพราะในกาแล็กซี่นี้มีโลกเพียงใบเดียวเท่านั้นที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เพราะที่ตั้งของโลกอยู่ในที่ที่เหมาะสมจึงทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตจึงมีการใช้ประโยชน์จากแสงสว่างของดวงอาทิตย์ได้น้อย พลังงานที่มีผลกระทบต่อโลกทันที อันดับแรกคือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าซึ่งสามารถผ่นชั้นบรรยากาศมาถึงผิวโลกได้เร็ว นอกจากนี้ยังมีเคลื่อนวิทยุและรังสีอัลตราไวโอเลต พลังงานที่มีผลกระทบต่อโลกในภายหลัง คือแสงเหนือแสงใต้หรือแสงออโรรา 2. ประโยชน์จากแสงทางอ้อม เช่น ทำให้เกิดวัฏจักรของน้ำ (การเกิดฝน) พืชและสัตว์ที่เรารับประทาน ก็ได้รับการถ่ายทอดพลังงานมาจากแสงอาทิตย์ การทำนาเกลือ แสงแดดช่วยทำให้ผ้าที่ตากแห้งเร็ว เซลล์สุริยะ |